"อ.เดชา"​ ชี้รัฐจับเกษตรกร​แลกผลประโยชน์​ CPTPP​

วิกฤต​โควิด​ 19​ กลายเป็นข้ออ้างในการผลักดันฟื้นฟู​เศรษฐกิจ​ ​โดยควรเร่งให้ไทยเข้าร่วมข้อตกลง​การค้า​ CPTPP​ ด้านประธานมูลนิธิ​ข้าวขวัญ​ ชี้ว่ารัฐกำลังจับเกษตรกรเพื่อแลกกับผลประโยชน์​หมื่นล้าน​ ซึ่งไม่เป็นธรรม​ ซึ่งเพิ่มต้นทุน​เมล็ดพันธุ์​ให้สูงขึ้น
(17​ มิ.ย.​ 63) นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ กล่าวว่า รัฐบาล​ฉวยโอกาสในช่วงวิกฤตโควิด19​ เป็นข้ออ้างในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ​ โดยเร่งรัดให้เข้าร่วมข้อตกลงการค้า​ CPTPP​ ซึ่งยังไม่มีการศึกษาผลกระทบ​อย่างรอบด้าน และเป็นธรรม

เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลใช้กรอบแนวคิดเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ​เป็นตัวตั้ง เพราะการเข้าร่วม​ CPTPP​ จะให้ผลประโยชน์นับหมื่นล้านบาท แต่ถามว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ที่จะนำกลุ่มเกษตรกรไปแลกกับผลประโยชน์นี้​ ซึ่งรัฐมองว่าภาคการเกษตรมีเม็ดเงินน้อยกว่าภาคอุตสาหกรรม ก็จะทำให้คนรวยยิ่งได้ประโยชน์​ ส่วนคนจนก็จนลง ทำให้ความเหลื่อมล้ำยิ่งมีช่องว่างมากขึ้น 

ปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่ซื้อเมล็ดพันธุ์จากบริษัทอุตสาหกรรมการเกษตรเพื่อเพาะปลูก ซึ่งเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ถูก​พัฒนาให้เหมาะกับระบบเกษตร​สมัยใหม่​ เช่นการใช้สารเคมี​ชนิดต่าง​ๆ​ ซึ่งบริษัท​เหล่านี้ก็เป็นทั้งผู้ผลิตต้นน้ำและปลายน้ำครบวงจรอยู่แล้ว

หากรัฐตกลงเข้าร่วม​ CPTTP​ กลุ่มเกษตรกรก็จะได้รับผลกระทบซ้ำเติม​ โดยเฉพาะ​เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่​ และพืชผัก​ เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้พืชสายพันธุ์​ใหม่​ จะไม่สามารถเก็บไว้ปลูกใหม่ได้​ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น​ 

ที่ผ่านมารัฐบาลก็ไม่เคยสร้างทางเลือกด้านเมล็ดพันธุ์ให้เกษตรกร เพราะนอกจากข้าวแล้วรัฐไม่มีเมล็ดพันธุ์​ของ​รัฐ​ที่ไปทดแทนเมล็ดพันธุ์​จากบริษัท​ เช่นข้าวโพด​เลี้ยง​สัตว์​ มะเขือเทศ​ แตงโมง​ และพืชผักต่างๆ​ ที่ต้องพึ่งพา​เอกชน​ 

ประธานมูลนิธิ​ข้าวขวัญ​ เสนอทางเลือกในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ​หากไม่ต้อง​เข้าร่วม​ CPTTP​ ควรดึงจุดแข็งด้านอาหาร​ การท่องเที่ยว​ สุขภาพ​ ซึ่งจะได้ประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย​ กระจายรายได้สู่ชุมชน

ความคิดเห็น

  1. นับว่าเป็นความอ่อนปัญญาโดยแท้โดยเฉพาะนายกที่มีที่มาที่ไปจากการทำรัฐประหารแล้วต้องการจะต่อสัปทานต่อ​ มีความคิดที่จะอยู่ต่อนานถึง20ปีจึงเป็นที่มาของร่างยุทธศาสตร์ชาติ20ปีจากนี้​ ยังมีหน้าเอาเงินจากภาษีปชชทั้งประเทศไปปูนบำเน็จความดี(ซึ่งไม่น่าจะเข้าข่ายความหมายของทำความดีให้​ประเทศตรงไหน​ บางคนถึงกับบอกว่าน่าจะเป็นความชั่วมากกว่าด้วยซ้ำไป)​เอะอะคิดอะไรไม่ได้ต้องลงที่ทำเพื่อประชาชน​ การไปลงนามในสัญญาล้มประเทศอย่างถาวรเป็นการทำเพื่อปชชตรงไหน​ ที่ผ่านมาความเหลื่อมล้ำในสังคมสูงสุดเป็นประวัติกาล​ นายสัวรวยเอาแย่งกันรวยแต่คนรากหญ้าไม่มีอะไรจะกิน​ ยังดีว่าคนไทยยังมีจิตใจช่วยเหลือกัน​ เกิดตู้แบ่งปันอาหารหรือสิ่งของจำเป็นขึ้น​ ประเทศไทยไม่ต้องการคนเก่งแต่ต้องการคนที่เข้าใจและรับผิดชอบอย่างแท้จริง​ ไม่ใช่อยู่ไปวันๆกับการพูดเรื่องไร้สาระและไม่มีความจริง

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมอมานพ แจงยิบ! เงื่อนไขใหม่ “มะเร็งรักษาทุกที่” ทำไมต้องมีใบส่งตัว

บัตรทอง ใช้งบผิดทาง ปลายปิดกับรพ.ใหญ่ ปลายเปิดกับร้านยา

“โรงพยาบาลท่าตูม” แนวรับด่านใหม่ – รองรับผู้ป่วยชายแดนกว่า 170 ราย หลัง รพ.แนวปะทะต้องปิดบริการ