อภ.ตั้งเป้าปี 2565 เป็นผู้ผลิตสารตั้งต้นในการผลิตยาเอง

"ประเทศไทยยังไม่สามารถที่จะผลิตยาฟาวิพิราเวียร์เองได้ แต่ก็มีแผนขยายการผลิตในระดับอุตสาหกรรม... ตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2565 จะต้องเป็นผู้ผลิตสารตั้งต้นในการผลิตยาเอง"

‘นพ.โสภณ เมฆธน’ ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุในการเสวนา "วัคซีน - ยา: ความหวัง - วิกฤต - โอกาส" ว่า ปัจจุบันสต็อกยาฟาวิพิราเวียร์ไว้ถึง 590,680 เม็ด ซึ่งจะใช้ได้กับผู้ป่วย 8,400 คน แต่ไม่ใช่ผู้ป่วยทุกคนที่ต้องใช้

“ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่สามารถที่จะผลิตยาตัวนี้เองได้ แต่ก็มีแผนที่จะขยายการผลิตในระดับอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคมนี้ และตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2565 จะต้องเป็นผู้ผลิตสารตั้งต้นในการผลิตยาเอง แม้จะเป็นเรื่องยากของไทยแต่ก็ต้องตั้งเป้าหมายเอาไว้”

ส่วนการพัฒนาวัคซีนก็ยังคงต้องรอดูผลว่าจะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากแค่ไหน ทั่วโลกเริ่มมีการทดลองไปถึงระยะที่ 3 โดยภายในเดือนสิงหาคมอาจมีการพิจารณาหาข้อสรุปในการอนุมัติงบประมาณ 1,500 ล้านบาทในการ จัดตั้งโรงงานวัคซีน 

ขณะเดียวกัน ชุด PPE (Personal Protective Equipment) หรือ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลของไทย ก็พัฒนาไปมาก จากเดิมที่ไม่เคยมีผลิตและต้องนำเข้าจากเวียดนาม แต่หลังจากที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น บุคลากรทางการแพทย์ต้องใช้ จึงได้พูดคุยกับกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ และมหาวิทยาลัยหลายสถาบัน โดยภายในเดือนเดียว ก็สามารถผลิตขึ้นใช้เองได้ ปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกอบการ 25 ราย ที่สามารถผลิต ชุด PPE เพื่อรองรับได้เป็นล้านตัว ด้านหนึ่งเป็นโอกาส ที่จะควรเปิดตลาดและส่งออก แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า การตรวจรับรองมาตรฐาน ใครจะมาช่วยอุดช่องว่างส่วนนี้

ขณะที่หน้ากาก n95 แม้จะมีบริษัทญี่ปุ่นที่ผลิตในไทย มีกำลังการผลิตเป็นล้านชิ้น แต่ก็แบ่งมาให้ประเทศไทยใช้ 300,000 ชิ้นต่อเดือน ปัจจุบันมีสต็อกหน้ากาก n95 ไว้ที่ 1.3 ล้านชิ้น ขณะเดียวกันก็ตั้งเป้าที่จะเปิดสายการผลิตหน้ากาก n95 ใช้เองในเดือนมีนาคม 2564 แต่ปัญหาตอนนี้ คือ ขาดถุงมือยาง ซึ่งราคาปรับสูงขึ้น 2-3 เท่า และหมวกคลุมที่เป็นกระดาษ ตอนนี้เริ่มปรับใช้เป็นผ้าเพราะไม่มีผลิตในประเทศ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมอมานพ แจงยิบ! เงื่อนไขใหม่ “มะเร็งรักษาทุกที่” ทำไมต้องมีใบส่งตัว

บัตรทอง ใช้งบผิดทาง ปลายปิดกับรพ.ใหญ่ ปลายเปิดกับร้านยา

“คลินิกชุมชนอบอุ่น” ยันได้ค่าเหมาจ่ายรายหัวบัตรทอง 10 บาท จริง!