3​ นักธุรกิจ​ภูเก็ต​ หวั่น​ 'ภูเก็ต​โมเดล'​ เม็ดเงินไหลไม่ถึงรายย่อย​ วอนรัฐพักหนี้​ 2​ ปี​ -​ ตั้งกองทุนเยียวยา​

กลุ่ม Phuket For​ All กังวล โควิดระบาดซ้ำดึงเศรษฐกิจแย่กว่า​เดิม​ แนะรัฐตั้งกองทุนเยียวยาผู้ประกอบการภูเก็ต​ พักชำระหนี้ 2 ปี​ 

30​ ส.ค.​ 63​ จากกรณีรัฐบาลเตรียมนำร่องเปิดประเทศ ที่จังหวัดภูเก็ต​ หรือภูเก็ตโมเดลเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยหวังที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่​เริ่มวันที่ 1 ตุลาคมนี้​ ล่าสุดกลุ่มภาคประชาสังคม​ Phuket For​ All ซึ่งมีทั้งประชาชนและนักธุรกิจในพื้นที่ต่างแสดงความคิดเห็นและตั้งคำถามถึงความพร้อมของมาตรการรองรับการเปิดประเทศตามโมเดลดังกล่าว

นายปรีชา​ ใจอาจ ตัวแทนกลุ่ม​ Phuket For​ All นักธุรกิจเอกชนกล่าวว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลจะนำร่องเปิดประเทศที่ภูเก็ต​ แต่ก็มีคำถามว่าหากเกิดระบาดซ้ำรอบ​จะมีแผนรองรับอย่างไร​ โดยเฉพาะแนวทาง​ 5T ที่รัฐบาลประกาศออกมาว่ามาตรการเปิดเมืิองปลอดภัย​ แต่ยังไม่มีใครพูดถึงแผนรองรับ​ หากมีผู้ติดเชื้อโควิด​ 19​ หลุดออกจะที่กักกันโรค โดยหากต้องล็อกดาวน์บางพื้นที่จะต้องสร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการรายย่อย

"เมื่อครั้งโควิดระบาดรอบแรกที่ภูเก็ต เอกชน​ ท้องถิ่นต้องช่วยเหลือตัวเอง และภาครัฐไม่ได้ลงมาดูแลเยียวยาอย่างจริงจัง​ มีการการล็อคดาวทั้งจังหวัดส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง​ หากมีการระบาดซ้ำหลังเปิดรับนักท่องเที่ยว ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ​"

นายปรีชา​ ยังเห็นด้วยว่าภูเก็ตโมเดลในระยะสั้น​ ส่งอานิสงส์เฉพาะกลุ่มโรงแรมขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวทางเลือก แต่ว่ารายย่อย​ ร้านค้าทั่วไป​ แท็กซี่รายวัน​ รถเช่า​ กรุ๊ปทัวร์ และอุตสาหกรรมในห่วงโซ่การท่องเที่ยวต่างๆรอบนอกยังไม่ได้รับอานิสงส์​ หากจะแก้ปัญหาให้ตรงจุดคือต้องเร่งเยียวยา ผู้ประกอบการรายย่อยที่กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สิน ที่หลายแห่งเริ่มปิดกิจการ บางแห่งก็มีนายทุนต่างชาติเข้ากว้านซื้อ​ ซึ่งจะกระทบกับการพัฒนาเศรษฐกิจภูเก็ต​ในระยะยาว

ขณะที่นายอมร อินทรเจริญ​ ประธานกรรมการบริหาร ภูเก็ตเพิร์ล กรุ๊ป กล่าวว่าบริษัทซึ่งผลิตเครื่องประดับจากไข่มุกและมีฟาร์มหอยไข่มุก ได้รับผลกระทบจากโควิด​โดยตรง​ ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อสินค้า​ ปัจจุบันปรับตัวขายสินค้าในรูปแบบออนไลน์​แทน

"การปรับตัวครั้งนี้มีบทเรียนที่ได้จากวิกฤต​สึนามิ​ เมื่อปี​ 2547 ที่ทำให้ต้องคิดแผน 1 แผน 2 รองรับเอาไว้เสมอ​ เมื่อเกิดวิกฤตโควิดก็ยังมีแผนสองไว้รองรับ" 

นายอมร​ บอกว่า​รัฐบาลควรตั้งกองทุนเยียวยาผู้ประกอบการ​ SMEs ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบ โดยในแต่ละปีจังหวัดภูเก็ตสามารถเก็บภาษีที่ได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 4 แสนล้านบาทหากนำเงินส่วนนี้แบ่งออกมาร้อยละ 10-20​ ตั้งเป็นกองทุนเยียวยาก็จะช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบได้

และอีกมาตรการสำคัญอยากให้มีการพักชำระหนี้ ส่งเสริมมาตรการลดหย่อนภาษีต่างๆในพื้นที่ รวมถึงให้อาจจะให้ หาดป่าตองเปิดตลอด 24 ชั่วโมง จัดกิจกรรมอีเว้นท์และส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย อย่างจริงจัง

ด้าน​ นาย​วิทยา วงศ์วิเชียรกุล​ เลขาธิการหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน​ กล่าวว่า​ สัดส่วนนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เป็นคนไทยเพียงร้อยละ 13 ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติแต่จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เป็นส่วนน้อยก็สามารถเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นหากรัฐมีมาตรการส่งเสริมจริงจัง

ขณะเดียวกัน​ ส่วนกรณีสินเชื่อฉุกเฉินหรือSoft loan ผู้ประกอบการส่วนใหญ่สะท้อนปัญหาว่าแบงค์ไม่ยอมปล่อยกู้​ ผู้ประกอบการส่วนมากมีประวัติค้างชำระหนี้เดือนถึง 2-3 เดือนทำให้แบงค์กลัวจะเกิดหนี้เสีย​ จึงเห็นสอดคล้องกันว่ารัฐควรจะตั้งกองทุนเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ​ 

สำหรับการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในวันที่ 4-6 กันยายนนี้ในนามหอการค้าอันดามัน​ และกลุ่มภาคประชาชน​ Phuket For​ All ก็จะเข้าพบ เพื่อหารือถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภูเก็ตที่ตรงจุดและปลอดภัยกับประชาชนภูเก็ต อย่างรอบด้านด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมอมานพ แจงยิบ! เงื่อนไขใหม่ “มะเร็งรักษาทุกที่” ทำไมต้องมีใบส่งตัว

บัตรทอง ใช้งบผิดทาง ปลายปิดกับรพ.ใหญ่ ปลายเปิดกับร้านยา

“คลินิกชุมชนอบอุ่น” ยันได้ค่าเหมาจ่ายรายหัวบัตรทอง 10 บาท จริง!