ยูเอ็นกังวล รบ.ไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังม็อบชุมนุมอย่างสันติ
สหประชาชาติกังวล รบ.ไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ ชี้เป็นผลเสียต่อเสรีภาพในการแสดงออกขั้นพื้นฐาน หลังการชุมนุมหนึ่งวันก่อนหน้า ส่วนใหญ่ดำเนินไปอย่างสันติ
เมื่อ 16 ต.ค.63 (ตามเวลาท้องถิ่น) น.ส.ราวินา ชัมดาซานี โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights) หรือ UNHR กล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาติแสดงความกังวลต่อกรณีรัฐบาลไทยได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ทั้งที่การชุมนุมในวันก่อนหน้านั้น การชุมนุมประท้วงส่วนใหญ่ได้ดำเนินไปอย่างสันติ และทางการไทยก็ได้เคารพพื้นที่ในการแสดงออกซึ่งเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ
UNHR มีความกังวลการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อเสรีภาพในการใช้สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้รับการรับรองในพันธสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก
นอกจากนั้น UNHR ยังมีความกังวลเรื่องการควบคุมตัวและจับกุมนักกิจกรรม และนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก ซึ่งรวมทั้งผู้เข้าร่วมในการประท้วง โดยตัวเลขล่าสุดที่เราได้รับนั้น มีผู้ถูกจับกุมแล้ว 57 คน ในระหว่างวันที่ 13-16 ตุลาคม ในจำนวนนี้ 6 คน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ส่วนคนที่เหลือในวันนี้ยังถูกควบคุมตัวในเรือนจำของสำนักงานตำรวจ
น.ส.ราวินา ชัมดาซานี โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสประชาชาติ ยังขอเรียกร้องให้ทางการไทยรับรองว่าจะไม่มีผู้ใดตกเป็นเป้าหมาย ถูกคุมขัง หรือถูกตั้งข้อหาร้ายแรงในการที่พวกเขาได้ใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการชุมนุมและการแสดงออกโดยสันติ รวมทั้งเราขอเรียกร้องให้ทางการไทยรับรองว่า จะมีการจัดหามาตรการคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเป็นระบบสำหรับผู้ที่ถูกจับกุม และถูกควบคุมตัวทุกคน ซึ่งรวมถึงการติดต่อกับทนายความและครอบครัวได้ตลอดเวลา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น