สปสช.ยันห้ามเรียกเก็บค่ารักษาโควิดเพิ่ม​ -​ ชี้ผู้ติดเชื้อนอนรพ.สนาม​ หรือ​ Hospitel​ ขึ้นอยู่กับอาการ​ ไม่มีล็อกเตียง​

ยอดผู้ติดเชื้อโควิดยังพุ่งไม่หยุด ทำลายสถิติใหม่ ที่ 1,582 คน​ กรุงเทพติดเชื้อ วันเดียว 312 คน​ กรมการแพทย์ตั้งเป้าเปิด Hospitel​ รับผู้ป่วย 500 คนต่อวัน​ วอนผู้ป่วยอย่าโทรหาเตียงซ้ำซ้อน

เมื่อวันที่ 16 เม.ย.​ 64​ ที่กระทรวงสาธารณสุข​ นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท. ผู้อำนวยการกอง ควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน เปิดเผยว่า วันนี้มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,582 คน แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 1577 คน​ และมาจากต่างประเทศ 5 คน​ โดยจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดยังคงเป็น​ กรุงเทพฯ 312 คน​รองลงมาคือเชียงใหม่ 272 คน​ จังหวัดชลบุรี 111 คน และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 100 คน ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 39,083 คน จำนวนนี้อาการหนักอยู่ในห้อง ICU 16 คน อยู่ระหว่างรักษาตัว 10,461 คนถือยังถือว่ามีอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำมาก 0.25%

กรมสบส.ตั้งเป้า​ เพิ่มเตียง​ Hospitel​ 7,000 เตียง

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข​ ระบุ​ว่า​ กรมฯ จัดเตรียม Hospitel โดยใช้โรงแรมที่ไม่มีผู้เข้าพักไว้แล้วจำนวน 6,525 เตียง ใช้ไปแล้วราว 3,000​ เตียง สำหรับรองรับผู้ที่ไม่มีอาการ​ และผู้ที่ได้รับการรักษาตัวมาจากโรงพยาบาล 3 - 5 วันแล้วพบว่าอาการปกติหรือไม่มีอาการ ก็สามารถย้ายมายัง Hospitel ได้ทันทีซึ่งขณะนี้ได้​ขึ้นทะเบียนโรงแรมไปแล้วจำนวน 23 แห่ง มีเตียงรองรับ 4,900 เตียง ในอนาคตจะมีการเตรียมเตียงเพิ่มขึ้นให้ถึง5,000- 7,000 เตียง รองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยแล้ววันละ 500 คนต่อวัน

โดยกำหนดให้ Hospitel นั้นมีมาตรฐาน เช่นมีแพทย์ 1 คน จำนวนผู้ป่วย 20 เตียงต่อ 1 พยาบาล มีการกำจัดขยะติดเชื้อที่ถูกต้อง และมีเครื่องมือต่างๆ เช่นปรอทวัดไข้ อุปกรณ์วัดออกซิเจนในเลือด และเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ ซึ่งมีมาตรฐานระดับสถานพยาบาลชั่วคราวที่พร้อมรองรับผู้ป่วย เพื่อช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล เพื่อให้โรงพยาบาลได้รองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักหรือจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 


สปสช.ยัน​ป่วยโควิดห้ามเรียกค่ารักษาเก็บเพิ่ม

แพทย์หญิงกฤติยา​ ศรีประเสริฐ​ ที่ปรึกษาสปสช ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อโควิค 19 ทุกคน จะได้รับการรักษาฟรี ไม่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มจากผู้ป่วย​ เนื่องจาก สปสช ได้มีการจ่ายชดเชยโควิด 19 เพิ่มเติมจากระบบปกติ​ ทั้งค่าตรวจแลป​ ค่าบริการค่าเก็บตัวอย่าง​ ค่ายา​ ค่าชุด ppe อุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อ​ ค่าห้องรวม​ ค่าอาหารและค่าพาหนะส่งต่อผู้ป่วย​ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีต้องนอนโรงพยาบาลสนามหรือ Hospitel​ รวมอยู่ในค่าหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด-19 ที่จ่ายตามจริงไม่เกิน 1,500 บาทต่อวัน​ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายจะเบิกจากประกันสุขภาพส่วนบุคคลก่อนเป็นอันดับแรก แล้วพิจารณาตามสิทธิ​กองทุนสุขภาพ ประกันสังคม หรือข้าราชการ โดยหากมีส่วนต่าง​ สปสช.​ เรียนย้ำว่าได้คิดครอบคลุ่มค่ารักษาพยาบาล​ และจ่ายชดเชยให้ตามราคากลางที่กำหนด​ ดังนี้

กรมการแพทย์​ ชี้​ นอนโรงพยาบาลสนาม​ หรือ​ Hospitel​ ขึ้นอยู่กับอาการ​ ไม่มีล็อกเตียง​ 

พญ.ปฐมพร ศิรประภาศิริ ที่ปรึกษากรมการแพทย์ กล่าวถึง กรณีผู้ติดเชื้อที่ต้องนอนโรงพยาบาลสนามหรือ​ Hospitel​ ว่า ว่า​ หากตรวจเชื้อที่ไหน โรงพยาบาล​นั้นจะช่วย หาเตียง ให้ก่อน ยกเว้นไม่มีเตียง หรือ โรงพยาบาล​เครือข่ายไม่มีเตียง จะมีการหาเตียงในระบบทั้งหมด 

"จะได้นอน โรงพยาบาล​สนาม หรือ​ Hospitel​ ขึ้นอยู่กับ โดยก่อนเข้า​โรงพยาบาล​สนาม​ หรือ​ Hospitel​ ผู้ติดเชื้อจะได้รับการตรวจ ซักประวัติ เอกซเรย์ปอด หากผลการเอกซเรย์ปอด มีข้อสงสัยว่าปอดจะอักเสบ จะได้อยู่โรงพยาบาลหลัก​ กลุ่มที่ต้องอยู่โรงพยาบาล​สนาม​ หรือ​ Hospitel​ ได้แก่ อาการไม่หนัก, อายุน้อยกว่า 50 ปี, ไม่มีโรคประจำตัว, ไม่ใช่ผู้พิการ"

พญ.ปฐมพร  ระบุว่า ทั้งโรงพยาบาล​สนาม​ และ​ Hospitel​ ไม่ได้แยกกลุ่มกัน จะเป็นการพิจารณาว่าที่ไหนมีเตียงว่าง เป็นไปตามการจัดสรรลงเตียง สิ่งแรก คืออยากให้เข้าสู่ระบบได้เร็วที่สุด เพื่อลดการแพร่เชื้อ ลดการระบาด หลายคนผลตรวจเป็นบวกแต่อยู่บ้าน หากโรงพยาบาล​ไม่โทรตามก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ครบ 14 วัน แต่แบบนี้มีความเสี่ยงต่อครอบครัว หลายครั้งที่ห้องข้างๆ หรือ บ้านข้างๆ แจ้งเข้ามา 1330 1660 หรือ 1422

พบผู้ติดเชื้อโทรหาเตียงซ้ำ​ 50% วอนรอประสานสายเดียว​ 

พญ.ปฐมพร​ กล่าวอีกว่า​ หากผลเป็นบวก ให้โทรศัพท์เข้ามาตามสายด่วน 1669 หรือ 1330 หรือ Line @sabaideebot ย้ำว่า ไม่อยากให้โทรทุกที่ ทุกเบอร์ เพราะข้อมูลจะซ้ำกัน ทำให้ช้าไปอีก แนะนำว่าให้โทร 1 ครั้ง และรอการดำเนินการ

"หลายคนเมื่อมีความกังวลใจในการติดเชื้อทำให้ระหว่างรอโรงพยาบาล​จัดหาเตียง​ มีการโทรไปสายด่วนไม่ว่าจะเป็น 1330 หรือ 1669 ซึ่งผู้ป่วยจะถูกซักข้อมูลสุขภาพอีกครั้ง รวมถึงอาการเพิ่มเติม เพื่อคีย์ข้อมูลไปในไฟล์ และส่งไปยัง ศูนย์เอราวัณ เช่นเดิม เป็นความซ้ำซ้อน นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทุกวันจะต้องมีการคลีนข้อมูล เนื่องจากศูนย์เอราวัณ รับข้อมูลจากทั้ง 1330 , 1668 , สบายดีบอต , โรงพยาบาล และประชาชน ทำให้ทุกวันมีข้อมูลซ้ำกันเกิน 50%"

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมอมานพ แจงยิบ! เงื่อนไขใหม่ “มะเร็งรักษาทุกที่” ทำไมต้องมีใบส่งตัว

บัตรทอง ใช้งบผิดทาง ปลายปิดกับรพ.ใหญ่ ปลายเปิดกับร้านยา

“คลินิกชุมชนอบอุ่น” ยันได้ค่าเหมาจ่ายรายหัวบัตรทอง 10 บาท จริง!