เปิดนโยบายสาธารณสุข ปี 2567-2568 ยุค “สมศักดิ์ เทพสุทิน”​

ห่วงเงินกองทุนบัตรทองไม่พอ แต่ยังไม่ของบฯเพิ่ม ดึง อสม.เสริมระบบสุขภาพปฐมภูมิ ส่งเสริมสุขภาพให้คนป่วยน้อยลง ยอมรับเตียงบำบัดผู้เสพยามีน้อย ยันเดินหน้าแก้กฎกระทรวงยาบ้า 1 เม็ด ดึงกัญชาเป็นยาเสพติดเพื่อการแพทย์ 




วันนี้ 27 พ.ค.2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข มีการประชุมมอบนโยบายกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 – 2568 “5+5” เร่งรัดพัฒนาสานต่อ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวง อธิบดีกรมต่างๆ และบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขทุกจังหวัด เข้าร่วม


นโยบายสำคัญที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม 5 ด้าน ได้แก่ 


1. การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เชื่อมโยงระบบการรักษา เบิกจ่าย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน เข้ารับบริการสุขภาพได้ทุกที่ทั่วไทย เพิ่มการเข้าถึง ลดค่าใช้จ่าย 


2.การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างบูรณาการ พัฒนามินิธัญญารักษ์ บูรณาการระบบการบำบัด รักษา ฟื้นฟูให้เป็นรูปธรรม ทบทวนกฎหมายให้เหมาะสม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้สังคม 


3.การพัฒนาการแพทย์ปฐมภูมิส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพประชาชน จากภาคีเครือข่ายในพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับประชาชนสนับสนุนการทำงานของพี่น้อง อสม. ให้มีกฎหมายรองรับ กองทุนสุขภาพตำบล และสะสางการถ่ายโอน รพ.สต. 


4. การยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำคัญ ที่เราจะผลักดันเข้าสู่ตลาดระดับโลก ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์มูลค่าสูง แพทย์แผนไทย สมุนไพรและผลิตภัณฑ์สุขภาพ พร้อมทั้งจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะเพื่อการขับเคลื่อนภารกิจนี้ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม 


5.เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ พลิกโฉมโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ เพิ่มศักยภาพบริการสุขภาพตามบริบทของพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชายแดน พื้นที่เฉพาะและเขตเมืองพัฒนาระบบการส่งต่อให้รวดเร็วไร้รอยต่อ 


นอกเหนือจากการเร่งรัดให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ของนโยบายทั้ง 5 ด้าน ยังสานต่อการดำเนินงานสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขอีก 5 ด้าน คือ  


1.การพัฒนางานสาธารณสุข ตามแนวพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ซึ่งถือเป็นภารกิจอันสำคัญยิ่งของเราชาวสาธารณสุข 


2.การสร้างขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรและพี่น้อง อสม. ต้องสร้างความมั่นคงให้กับบุคลากรสาธารณสุขทุกสายงานทั้งในด้านความก้าวหน้า ค่าตอบแทน สวัสดิการและการแก้หนี้ 


3.การส่งเสริมสุขภาพกายและจิต ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจิต เพิ่มการเข้าถึงการปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยาผ่านทางระบบการแพทย์ทางไกล พร้อมจัดตั้งหน่วยงานและกองทุนเฉพาะเพื่อการบริหารจัดการ 


4.การพัฒนาสถานชีวาภิบาลและระบบการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง ไปจนถึงการเตรียมความพร้อมในช่วงระยะสุดท้ายของชีวิต ให้ความสำคัญกับการผลิตผู้ดูแลให้พร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ จัดตั้งกุฏิชีวาภิบาล ในการดูแลพระภิกษุสงฆ์อย่างทั่วถึงทุกอำเภอ 


5.การดูแลให้ทุกคนปลอดภัยจากโรคและภัยสุขภาพ ยกระดับระบบเฝ้าระวังและควบคุมโรคให้ทันสมัย พัฒนาการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินอย่างครอบคลุม จัดตั้งกองทุนความปลอดภัยนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ




ห่วงรักษาทุกที่เงินไม่เพียงพอ 


ในระหว่างการมอบนโยบาย สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการทรวงสาธารณสุข แสดงความเป็นห่วงว่าเงินในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง จะไม่เพียงพอซึ่งปีงบประมาณปัจจุบันมีวงเงินกว่า 2.17 แสนล้านบาทและรัฐบาลจัดสรรงบบัตรทองเพิ่มทุกปี เนื่องจากพิจารณาจากจำนวนการเข้ามาใช้บริการของประชาชนมีเพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละ 5% 


ขณะที่การดำเนินนโยบาย บัตรทอง​ 30 บาท​รักษา​ทุกที่​​ พอบอกว่ารับไม่อั้น​​ อาจใช้เงินเกินโควต้า​ จึงจะทำอย่างไรให้มีคนมาหาหมอน้อยลง​ ต้องดึง อสม.มาเป็นกำลังพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ อัพเกรดศักยภาพช่วยงานสาธารณสุข ให้คนรักษาสุขภาพ ขณะที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ​ ก็สามารถเปิดศูนย์​ wellness​ ได้ลูกค้าเป็นพวกข้าราชการ​ ไม่ต้องใช้บัตรทอง 


ส่วนจะต้องของบประมาณเพิ่มหรือไม่ นายสมศักดิ์บอกว่า ยังไม่ของบเพิ่มแต่ต้องพิจารณาการใช้จ่าย และตนเข้ามาก็มีหน้าที่บริหารกองทุนให้เกิดความมั่นคง 


ยอมรับเตียงบำบัดผู้เสพยาไม่พอ 


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่าเตียงบำบัดผู้เสพยามีไม่พอ​ โดยใน​ 3​ ปีนี้ขอให้เจ้าหน้าที่​สาธารณสุข​อดทนหน่อย​ เราต้องบำบัดกันแรง​ เพราะเรามีเตียง​ 6500​ เตียง​ สีแดง​ สีส้ม​ เวียนๆ​ แล้วได้ประมาณ​ 2​ แสน​คน​ แต่มีคนเสพอยู่​ 1​ ล้าน​คน​ และหมอต้องพูดความจริงว่ามันรักษาไม่หาย​ ต้องใช้เวลามาก​ 


สัดส่วนเตียง​บำบัดผู้เสพสีแดง

-สาธารณสุข​ 6500​ เตียง

-กลาโหม​ 1500​ เตียง

-มหาดไทย​  300​ เตียง

-กทม​ 60​ เตียง


"แบบนี้จะให้กระทรวง​สาธารณสุข​มาแบกคนเดียวไม่ได้" สมศักดิ์​กล่าวและว่า​  ตอนนี้เจอ​ 1​ ผู้เสพ​ ต้องมี​ 1​ ผู้ค้ารายย่อย​ เพราะจะจัดการผู้ค​้ารายใหญ่ซึ่งมีเป็น​ 10​ ชนเผ่า​ ​บริเวณสามเหลี่ยม​ทองคำคงยาก​ พร้อมจวก กรรมการสิทธิ​ฯ​ ค้านยาบ้า​ 1​ เม็ด​ ยังเห็นบ้านเมืองเสียหาย​ไม่พอหรือ​ 


ด้าน สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า​ ห่วงการเกิดน้อยลง​จะขาดบุคลากร​ในทุกด้าน​ เร่งสธ.​ ส่งเสริมคนวัยเจริญพันธุ์​ถ้าเสียสละมีบุตร​ รัฐบาลจะช่วยดูแล​ ซึ่งจากที่ตนลงพื้นที่พบว่าคนไม่มั่นใจมีบุตรเพราะยังตั้งตัวไม่ได้​ กว่าครอบครัว​จะตั้งหลักได้​ ก็อายุเกิน​ 35​ ปีแล้ว​ ถึงตอนนั้นก็มีบุตรยาก


ขณะเดียวกัน ในเขตชนบทได้ทราบถึงปัญหาด้านบุคลากรไม่เพียงพอ การกระจายบุคคลากร และภาระงานที่ล้นมือ ทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกระดับ ขอสร้างความมั่นว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งแก้ปัญหานี้อยู่ โดยเฉพาะการพัฒนาและผลิตบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้เพียงพอต่อการบริการสุขภาพแก่ประชาชน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมอมานพ แจงยิบ! เงื่อนไขใหม่ “มะเร็งรักษาทุกที่” ทำไมต้องมีใบส่งตัว

บัตรทอง ใช้งบผิดทาง ปลายปิดกับรพ.ใหญ่ ปลายเปิดกับร้านยา

“คลินิกชุมชนอบอุ่น” ยันได้ค่าเหมาจ่ายรายหัวบัตรทอง 10 บาท จริง!