รัฐทุ่ม 1,115 ล้านบาท จ้าง “แคร์กิฟเว่อร์” เต็มเวลา 18,000 อัตรา ดูแลผู้พึ่งพิงกว่า 1 แสนคน

“สปสช.-สกร.” ทำ MOU พัฒนาหลักสูตร–วิจัย หนุนสังคมสูงวัย เปิดรับคนผ่านการอบรมร่วมสมัคร สร้างงาน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก หลักสูตรเรียนฟรีที่ กศน. 66 จังหวัด ต่อยอดสู่ “ผู้ช่วยพยาบาล“ สถานชีวาภิบาลตามวัด ทำได้แต่ต้องไม่ให้ “ระเบียบเลอะเลือน” 

วันที่ 26 สิงหาคม 2568 สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน “คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้มีภาวะพึ่งพิง” โดยระบุว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณ 1,115 ล้านบาท ให้ สปสช. ร่วม อปท. ทั่วประเทศ (อบต./เทศบาล/เมืองพัทยา/กทม.) จัดจ้าง “ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิง” หรือ แคร์กิฟเว่อร์ รวมกว่า 18,000 อัตรา ครอบคลุมผู้มีภาวะพึ่งพิงมากกว่า 100,000 คน โดยการจ้างเป็น “เต็มเวลา (Full time)” และเตรียมของบปีถัดไปเพื่อสานต่ออย่างต่อเนื่อง

รมว.สธ. เชิญชวนประชาชนที่ “ผ่านการอบรมดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิง” สมัครเป็นแคร์กิฟเว่อร์ ย้ำเป็นทั้งการสร้างงานในชุมชนและเสริมความเข้มแข็งระบบสาธารณสุขระดับพื้นที่ พร้อมเผยตัวเลขสมัครแล้วกว่า 6,000 คนกระจายทั่วประเทศ

ค่าตอบแทนเดือนละ 5,000 บาท พร้อมทบทวนเมื่อมีงบ

ค่าตอบแทนแคร์กิฟเว่อร์ตั้งไว้ราว 5,000 บาท/เดือน ซึ่งมีเสียงสะท้อนว่า “ต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ” นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า โครงการนี้มีลักษณะคล้ายการดูแลญาติผู้ป่วยที่บ้าน ซึ่งเดิมครอบครัวทำโดยไม่รับค่าตอบแทน การสนับสนุนงบจ้างจึงเป็น “ความกรุณาและความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี” เพื่อจุดประกายระบบใหม่ ทั้งนี้จะประเมินและพิจารณาปรับค่าตอบแทนได้ หากมีงบเหลือจากการบริหารลดค่าใช้จ่ายด้านอื่น

พึ่งพิง

หลักสูตรเรียนฟรีที่ กศน. 66 จังหวัด ต่อยอดสู่ “ผู้ช่วยพยาบาล

ด้าน ผศ.ลิณธภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  ระบุ กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งยกระดับทักษะตลอดชีวิต เปิดหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุผ่าน กศน. ทั่วประเทศ ปัจจุบันเปิดแล้วใน 66 จังหวัด มีผู้ผ่านการอบรมกว่า 7,800 คน เรียน “ฟรี” สนับสนุนโดยกระทรวงฯ ผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับ “ใบประกอบวิชาชีพดูแลผู้สูงอายุ” เข้าสู่การจ้างงานของ อปท. ต่อไป พร้อมแผนต่อยอดหลักสูตรสู่ “ผู้ช่วยพยาบาล” ในอนาคต

แคร์กิฟเว่อร์ 1 คน ดูแล 3–4 คน ใกล้บ้าน มีแคร์แพลน–ระบบรายงานผล

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ระบุ แคร์กิฟเว่อร์ 1 คนจะดูแลผู้พึ่งพิง 3–4 คนในพื้นที่ใกล้บ้าน ลดภาระเดินทาง มี “แคร์แพลน” กำหนดภารกิจและชั่วโมงงานชัดเจน พร้อมระบบรายงานผลยืนยันการปฏิบัติงาน เพื่อมาตรฐานการดูแลและความปลอดภัยของผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพัฒนา “มินิคลินิก เทเลเมด” ครอบคลุม 50 เขตในกรุงเทพฯ เชื่อมระบบดูแลที่บ้านกับบริการแพทย์ทางไกล ช่วยให้การติดตามอาการ–ปรึกษาแพทย์ทำได้สะดวกขึ้น พร้อมเดินหน้าพัฒนาบุคลากรรองรับสังคมสูงวัยร่วมกับ สกร.

ด้าน กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งความพร้อมของ อปท. ในการจัดจ้างและวางแผนกำลังคนแคร์กิฟเว่อร์ในชุมชน สอดรับกับงบ สปสช. และหลักสูตรจาก สกร. เพื่อให้บริการเข้าถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว

สถานชีวาภิบาลตามวัด ทำได้แต่ต้องไม่ให้ “ระเบียบเลอะเลือน”

ต่อคำถามกรณีสถานชีวาภิบาลในวัด เช่น วัดพระบาทน้ำพุ นายสมศักดิ์ รมว.สธ. กล่าวว่า อดีตอาจทำด้วยจิตอาสาและไร้กรอบชัดเจน แต่ปัจจุบันต้องอยู่ภายใต้ระเบียบและการตรวจสอบ “ใครจะทำอะไรก็เป็นสิทธิเสรีภาพ แต่อย่าทำให้ระเบียบเลอะเลือน ต้องตรวจสอบทั้งนั้น” โดยมอบนายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.สธ. ลงพื้นที่ตรวจสอบและรายงานผล