สุดพีค! “หมอมนูญ” เผย วัดพระบาทน้ำพุ หากินกับคนป่วยโรคเอดส์

 “ภาคประชาสังคม–แพทย์” ย้ำ ยุคนี้รักษาฟรี ยาต้านได้ผลดี ไม่จำเป็นต้องเปิดรับบริจาค 



แม้ไทยจะมีระบบรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ครอบคลุมมาตั้งแต่ปี 2548 แต่ปัญหาการตีตราและการเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคยังคงมีอยู่ ล่าสุดกรณีวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ถูกหยิบยกขึ้นเป็นตัวอย่างของการใช้ผู้ป่วยเป็นเครื่องมือระดมเงินบริจาค แพทย์และภาคประชาสังคมจึงออกมาเรียกร้องให้สังคมเข้าใจว่า “เอดส์รักษาได้ฟรี มีประสิทธิภาพสูง และไม่ควรมีใครถูกทิ้งไว้ตามวัดอีกต่อไป”



วันนี้ (19 ส.ค. 2568) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการแถลงข่าวโดยคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบและกำกับติดตามการเข้าถึงบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และวัณโรค ในงาน “เอดส์ประเทศไทย: ก้าวได้ไกล ไปใกล้ถึง” ซึ่งมีการสะท้อนปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการสื่อสารโรคเอดส์ และการใช้ผู้ป่วยเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์



◤ ​​ไทยมีระบบรักษาครบวงจร แต่ยังตายปีละหมื่นราย


พญ.จุรีรัตน์ บวรวัฒนนุวงศ์ นายกสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยพบผู้ป่วยเอดส์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2527 โดยช่วง 7–8 ปีแรกการระบาดสูงมาก กระทั่งปี 2544 มีคนไทยเสียชีวิตจากเอดส์ถึง 65,000 ราย หรือเฉลี่ยเสียชีวิตทุก ๆ 8 นาที


อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2548 ไทยมีโครงการยาต้านไวรัสเอดส์แห่งชาติครอบคลุมทุกระบบประกันสุขภาพ ทำให้ผู้ป่วยได้รับยาฟรี ยาที่พัฒนาขึ้นใหม่มีประสิทธิภาพสูง กินเพียงวันละ 1 เม็ด สามารถกดปริมาณไวรัสจนไม่พบในเลือดภายใน 3 เดือน และไม่แพร่เชื้อต่อ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตปกติ มีครอบครัวและบุตรได้


“เอดส์วันนี้รักษาได้ ไม่ใช่ภาพตัวผอมระยะสุดท้ายอีกแล้ว แต่สิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดคือการใช้ผู้ป่วยเป็นช่องทางหากิน เพราะระบบดูแลเราครอบคลุมแล้ว อย่าให้ธุรกิจใดมาหาผลประโยชน์กับผู้ป่วย” พญ.จุรีรัตน์ กล่าว พร้อมระบุว่า ปี 2568 สปสช.ใช้งบค่ารักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์ 3,519 ล้านบาท และงบด้านป้องกัน 689 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอและไม่เป็นปัญหา



◤ ​​กรมควบคุมโรคย้ำ ยังมีผู้ติดเชื้อใหม่ปีละ 8,000 ราย


นพ.พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กล่าวเสริมว่า ไทยเคยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดในปี 2535 ถึง 140,000–150,000 ราย ปัจจุบันลดลงเหลือเฉลี่ยปีละ 8,000 ราย ผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดราว 550,000 ราย ในจำนวนนี้กว่า 400,000 รายได้รับยาต้านไวรัสและสามารถกดเชื้อได้จนไม่แพร่ต่อ


“โจทย์ใหญ่คือผู้ติดเชื้อที่เหลือกว่า 150,000 รายยังไม่ได้รับยาเต็มที่ ซึ่งสะท้อนว่าการตีตราทางสังคมยังเป็นอุปสรรคสำคัญ” นพ.พงศ์ธร กล่าว พร้อมตั้งเป้าว่าในปี 2573 ไทยจะลดผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้เหลือไม่เกินปีละ 1,000 ราย และลดการเสียชีวิตเหลือไม่เกิน 4,000 ราย



◤ ​​เสียงสะท้อน กรณีวัดพระบาทน้ำพุ


ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมา คือกรณีการเปิดรับบริจาคเพื่อดูแลผู้ป่วยเอดส์ในวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ซึ่งถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่าย


นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ กรรมการและที่ปรึกษาสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย เล่าย้อนเหตุการณ์เมื่อ 21 ปีก่อนว่า มีพยาบาลนำยาต้านไวรัสไปช่วยผู้ป่วยที่วัด แต่กลับถูกไล่ออก ขณะเดียวกันยาถูกทำลายและอาสาสมัครถูกกีดกัน มองว่ามีเจตนาต้องการให้ผู้ป่วยอยู่ในภาวะระยะสุดท้ายเพื่อสร้างความสะเทือนใจและระดมเงินบริจาค


“วัดนี้บอกว่าบริจาคเพื่อผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้าย เด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิตจากโรคเอดส์ที่ปัจจุบันคือไม่มีแล้ว อย่างผมดูแลคนไข้โรคเอดส์อย่างน้อยๆหลายพันคน ไม่มีใครเลยระยะสุดท้าย ไม่มีคนไหนเลยที่พ่อแม่เสียชีวิตแล้วลูกกำพร้า แต่ว่าคนไทยยังเข้าใจผิด อันนี้เป็นอันที่น่าเสียใจ


อย่างเรื่องวัดนี้ลงในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศของอังกฤษเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ว่า วัดนี้น่าจะหากินกับผู้ป่วยโรคเอดส์ 


แต่ที่ผมมายุ่งก็เพราะว่า พยาบาลสวิสคนหนึ่ง ทำงานที่วัดนี้เมื่อประมาณ 21 ปีที่แล้ว ทำงานอยู่ 10 กว่าเดือน พอมีการไปหายาต้านไวรัส ซึ่งมีประสิทธิภาพ ผลข้างเคียงน้อยให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ในวัด ปรากฏว่าคนไข้ดีขึ้น แต่ไม่เป็นที่น่าพอใจ พยาบาลถูกไล่ออก ถูกขู่ฆ่า ยาต้านไวรัสถูกขโมยเอาไปทิ้ง เพื่อให้คนไข้กลับไปเป็นโรคเอดส์ระยะสุดท้าย คือถ้ากินยาไม่ใช่สุดท้ายแล้ว” นพ.มนูญ กล่าวว่า 


นายนิมิตร์ เทียนอุดม ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบและกำกับติดตามการเข้าถึงบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี กล่าวย้ำว่า ภาพผู้ป่วยเอดส์ผอมแห้งน่ากลัวไม่ควรมีอีกแล้ว เพราะปัจจุบันทุกคนมีสิทธิรักษาฟรี และยาต้านมีประสิทธิภาพสูง


“ทุกวันนี้หากสงสัยติดเชื้อ สามารถตรวจฟรีปีละ 2 ครั้ง หรือขอชุดตรวจผ่านแอปฯ เป๋าตังได้ หากผลเป็นบวกก็เข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพทันที ซึ่งครอบคลุมทั้งการตรวจเลือด การทำงานของอวัยวะ และโรคฉวยโอกาส” นายนิมิตร์ กล่าว พร้อมชี้ว่า การเสียชีวิตกว่าปีละ 10,000 รายสะท้อนว่าคนจำนวนมากยังไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง



◤ ​​“ไม่ควรมีใครถูกทิ้งไว้ตามวัดอีก”


พญ.จุรีรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่อยู่ในการดูแลของวัดพระบาทน้ำพุราว 59 ราย ซึ่งทุกคนควรได้รับการรักษาเต็มที่และกลับบ้านได้ ไม่ควรมีใครต้องเสียชีวิตเพราะเอดส์อีกต่อไป


“ขอครอบครัวหรือญาติอย่านำผู้ป่วยไปทิ้งตามวัด ระบบสาธารณสุขไทยวันนี้รองรับได้ครบถ้วนแล้ว การเปิดรับบริจาคแบบเดิม ๆ ไม่จำเป็นอีกต่อไป” พญ.จุรีรัตน์ กล่าว


#นักข่าวสาธารณสุข #เก็บตกจากวชิรวิทย์ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมอมานพ แจงยิบ! เงื่อนไขใหม่ “มะเร็งรักษาทุกที่” ทำไมต้องมีใบส่งตัว

บัตรทอง ใช้งบผิดทาง ปลายปิดกับรพ.ใหญ่ ปลายเปิดกับร้านยา

“โรงพยาบาลท่าตูม” แนวรับด่านใหม่ – รองรับผู้ป่วยชายแดนกว่า 170 ราย หลัง รพ.แนวปะทะต้องปิดบริการ