“ทวี” ยันฝ่ายค้านทำงานสร้างสรรค์เพื่อประชาชน ผลักดันกฎหมายแก้หนี้ใน 4 เดือน

ชี้ ร่าง พ.ร.บ.ล้มละลายใหม่ ช่วยฟื้นฟูหนี้ครัวเรือน-บริษัทกว่า 3 ล้านราย ย้ำอดีตคือบทเรียน ปัจจุบันและอนาคตต้องรับผิดชอบต่อประชาชน ด้าน “สมศักดิ์”  เชื่อทักษิณกลับไทย ส่วนกรณีมติแพทยสภาลงโทษหมอ ชั้น 14 เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ 




วันนี้ (8 กันยายน 2568) พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการร่วมเข้าชื่อเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของ อนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน เพราะมีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองว่า ขณะนี้ต้องให้กำลังใจนายอนุทินในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนบทบาทของฝ่ายค้านถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำงานเพื่อประชาชน โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายค้านมีเสียงมากขึ้น รัฐบาลควรร่วมมือกับสภาเพื่อผลักดันกฎหมายและนโยบายสำคัญ


“เราต้องเอาประชาชนไว้ก่อน เพราะรัฐบาลชุดนี้บอกแล้วว่าจะอยู่เพียง 4 เดือน บทบาทของสภาจึงควรมากกว่าบทบาทของรัฐบาล หน้าที่เราคือผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์ เช่น พ.ร.บ.ล้มละลายฉบับใหม่ ที่จะเปิดทางให้บริษัทกว่า 3 ล้านราย และประชาชนอีกนับล้านคน สามารถเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูหนี้ครัวเรือนได้” ทวี กล่าว พร้อมระบุว่า กฎหมายลักษณะนี้หลายพรรคการเมืองต่างเคยเสนอไว้ และถึงเวลาที่ต้องร่วมกันแก้ปัญหาหนี้เรื้อรังของประชาชน 


สำหรับข้อวิจารณ์ว่าพรรคเพื่อไทยมีท่าทีทางการเมืองไม่สอดคล้องกับจุดยืนเดิม พันตำรวจเอกทวี ปฏิเสธที่จะวิจารณ์โดยตรง แต่ย้ำว่า “อดีตคือบทเรียน ปัจจุบันและอนาคตคือความรับผิดชอบของพวกเรา และที่สำคัญที่สุดคือต้องรับผิดชอบต่อประชาชน” 


ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้ “นิติสงคราม” มาห้ำหั่นกัน พันตำรวจเอกทวีชี้ว่า ความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ควรใช้เวทีสภาเป็นพื้นที่พูดคุย หารือ และร่วมกันผลักดันสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน 


“ตอนนี้เสียงฝ่ายค้านรวมกันได้ราว 295 เสียง ถือว่าเป็นพลังสำคัญ สิ่งที่เราทำได้คือ เสนอแนะ คุ้มครองประชาชน ผลักดันกฎหมายดี ๆ และยกเลิกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมในช่วงเวลา 4 เดือนนี้” พันตำรวจเอกทวี


นอกจากนี้ เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวการกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า มองไม่เห็นเหตุผลใดที่อดีตนายกฯ จะไม่กลับมา และเชื่อว่าการกลับมาจะไม่ส่งผลเสียร้ายแรงต่อพรรคเพื่อไทย ส่วนกรณีมติแพทยสภาที่เกี่ยวข้องกับแพทย์ผู้รักษาบางกรณีนั้น สมศักดิ์เห็นว่า ควรรอให้ถึงวันพิจารณาจริง แต่เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมอมานพ แจงยิบ! เงื่อนไขใหม่ “มะเร็งรักษาทุกที่” ทำไมต้องมีใบส่งตัว

บัตรทอง ใช้งบผิดทาง ปลายปิดกับรพ.ใหญ่ ปลายเปิดกับร้านยา

“โรงพยาบาลท่าตูม” แนวรับด่านใหม่ – รองรับผู้ป่วยชายแดนกว่า 170 ราย หลัง รพ.แนวปะทะต้องปิดบริการ