สธ.ผุดไอเดีย! “พรีเมียมคลินิกดึงเงินประกันเอกชน“ เสริมรายได้ รพ.รัฐ ยันไม่กระทบบริการทั่วไป
รมว.สาธารณสุข เผยเตรียมวางระบบพรีเมียมคลินิก เปิดช่องบริษัทประกันเอกชนเข้ามาจ่ายตรงให้ รพ.รัฐ หวังเพิ่มรายได้ ลดคนไหลไปเอกชน ย้ำเดินหน้าควบคู่กับมาตรการลดผู้ป่วย NCD และบริหารบุคลากรแพทย์ให้เพียงพอ
วันนี้ (3 ก.ย. 68) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการจัดตั้ง “พรีเมียมคลินิก” ในโรงพยาบาลรัฐว่า ขณะนี้มีการเตรียมออกระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยแนวคิดสำคัญคือการเปิดให้บริษัทประกันชีวิตและประกันภัยเข้ามาร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลโดยตรงกับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ที่ผ่านมา ผู้ป่วยที่มีประกันส่วนใหญ่มักไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง แต่เมื่อมีพรีเมียมคลินิก ผู้เอาประกันสามารถมาใช้บริการในโรงพยาบาลรัฐได้ และยังช่วยเพิ่มรายได้เข้าระบบโดยไม่กระทบสิทธิ “30 บาทรักษาทุกที่” ของประชาชน บริษัทประกันเองก็ยินดี เพราะจะได้ค่าใช้จ่ายที่ถูกลง ขณะเดียวกันผู้ป่วยก็มีทางเลือกมากขึ้น
“ปัจจุบันผู้เอาประกันไปใช้บริการในโรงพยาบาลเอกชนที่มีค่าใช้จ่ายสูง หากเปิดทางให้สามารถมาใช้บริการในโรงพยาบาลรัฐได้ ก็จะเป็นทางเลือกที่ทั้งบริษัทประกันและประชาชนยอมรับ เพราะคุณภาพบริการของกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ด้อยกว่าเอกชน เพียงแต่ต้องมีระบบและระเบียบรองรับ” นายสมศักดิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการ ต้องพิจารณาแก้ไขระเบียบ กฎหมาย และจัดทำไทม์ไลน์ให้ชัดเจน โดยยืนยันว่า แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่จะเริ่มนำร่องก่อนแล้วค่อยพัฒนาให้รัดกุมในระยะถัดไป
รับมือความกังวล “สองมาตรฐาน”
เมื่อถูกถามถึงความเสี่ยงที่จะเกิดระบบ “สองมาตรฐาน” ระหว่างผู้ป่วยทั่วไปกับผู้ใช้บริการพรีเมียมคลินิก โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนแพทย์ นายสมศักดิ์ชี้ว่า กระทรวงฯ เตรียมแนวทางรองรับไว้แล้ว เช่น
• ส่งเสริมให้แพทย์เกษียณอายุเข้ามาร่วมทำงาน
• ใช้ระบบ Telemedicine และคลินิกเฉพาะทางเพื่อกระจายผู้ป่วย
• เดินหน้าลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ด้วยมาตรการควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
ทั้งนี้ รมว.สาธารณสุขย้ำว่า เป้าหมายไม่ใช่การดึงบุคลากรออกจากระบบหลัก แต่เป็นการบูรณาการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“ถ้าเราทำงานเชิงป้องกันได้ดี คนจะป่วยน้อยลง หมอที่มีอยู่ก็จะไม่ล้นภาระ และเรายังสามารถใช้ศักยภาพของแพทย์เกษียณและคลินิกเสริมต่าง ๆ มาช่วยกระจายภาระงานได้”
เขายกตัวอย่างผลการดำเนินงานด้านการป้องกันโรคเรื้อรังว่า สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น ในรอบปีที่ผ่านมามีตัวเลขสะท้อนว่า สามารถลดค่าใช้จ่ายสดลงได้ 838 ล้านบาท และในเชิงระบบลดภาระรวมกว่า 9,600 ล้านบาท
“ทั้งหมดนี้เพื่อให้การจัดตั้งพรีเมี่ยมคลินิกไม่ไปเบียดเบียนบริการพื้นฐาน แต่เป็นการเพิ่มทางเลือก ขยายฐานรายได้ และรักษาความสมดุลของระบบสาธารณสุข” นายสมศักดิ์กล่าว
ก้าวต่อไป ระบบประกันและการบูรณาการ
นายสมศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ทีมงานจากหลายฝ่ายร่วมกันจัดทำ Timeline การดำเนินงาน โดยระยะเริ่มต้นอาจมีการปรับแก้ระเบียบหลายครั้ง แต่จะเร่งให้สามารถเปิดบริการได้โดยเร็ว
“เราจะอินทิเกรตหลายระบบเข้าด้วยกัน ทั้งสิทธิหลักประกันสุขภาพ ระบบประกันเอกชน และบริการพรีเมียมคลินิก เพื่อให้ผู้ป่วยมีทางเลือกมากขึ้น ขณะที่รายได้ของโรงพยาบาลรัฐก็เพิ่มขึ้นด้วย” เขากล่าว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น